ปัจจุบันตลาดอาหารเสริม มีผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ ทั้งที่อยู่ในรูปแบบเม็ด,แคปซูล, ซอฟต์เจล,ของเหลว, เม็ดเคี้ยวและผง ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลวมีอัตราการดูดซึมมากถึง98% เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์รูปแบบเม็ด ซึ่งดูดซึมได้เพียง20% ผู้บริโภคจำนวนมากมีความกังวลว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบเม็ด จะไม่ถูกทำลายหรือดูดซึมได้อย่างรวดเร็วหรือสมบูรณ์เมื่อเทียบกับรูปแบบของเหลว อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีในปัจจุบันได้แตกต่างไปจากเมื่อก่อนมาก และคุณภาพได้เข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการดูดซึมของอาหารเสริมเหล่านี้
ความแตกต่างของรูปแบบผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
แบบเม็ด : จะได้เปรียบในเรื่องการออกแบบให้อาหารเสริมมีขนาด และรูปร่างตามที่ต้องการ อีกทั้งยังผลิตได้ง่ายและมีราคาถูก จึงถือว่าเป็นหนึ่งในรูปแบบการผลิตอาหารเสริมที่นิยม และสามารถเก็บรักษาได้นาน (2-3 ปี) เมื่อเทียบกับรูปแบบของเหลว, ผง และแคปซูลโดยส่วนใหญ่ ตราบเท่าที่คุณเลือกผลิตภัณฑ์ จากผู้ผลิตที่มีชื่อเสียง มีการผลิตอาหารเสริมตามสูตรที่ถูกต้อง คุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการดูดซึม เมื่อรับประทานอาหารเสริมแบบเม็ด
แบบแคปซูล : เป็นรูปแบบที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพราะมันง่ายต่อการกลืน และแตกตัวอย่างรวดเร็วในกระเพาะอาหาร แม้ว่าจะไม่ถึงจุดที่มีประโยชน์ทางโภชนาการก็ตาม นอกจากนี้ยังมีแคปซูลมังสวิรัติ ซึ่งปราศจากเจลาติน จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับกลุ่มผู้รับประทานมังสวิรัติ ที่จะไม่รับประทานส่วนที่ได้มาจากสัตว์ อย่างเช่นเจลาติน แคปซูลสามารถแกะออกได้ เพื่อนำบางส่วนของผงอาหารเสริมไปใช้ในปริมาณที่แตกต่างกัน จึงเหมาะแก่การนำมาใช้ในเด็ก หรือผู้ที่มีปัญหาด้านการกลืน
แบบเม็ดเคี้ยว : สำหรับรูปแบบอารเสริมประเภทนี้ จะมีค่าใช้จ่ายในการผลิตเพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ต่อมิลลิกรัม อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพด้อยกว่ารูปแบบเม็ดและแคปซูล จึงนิยมใช้แค่ในเด็ก หรือผู้ที่มีปัญหาในการกลืนยาเม็ดหรือแคปซูล
แบบผง : เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่มีราคาถูก แต่เมื่อน้ำมาใช้ จะเป็นต้องทำการผสมลงในของเหลว (เช่น น้ำเปล่า, น้ำผลไม้, น้ำปั่น) หรืออาหาร อาหารเสริมในรูปแบบผงจะมีความยืดหยุ่นในการกำหนดปริมาณรับประทาน อย่างไรก็ตาม คุณอาจจะต้องตวงผงอาหารเสริมให้ละเอียดสักหน่อย ดังนั้น การผลิตอาหารเสริมในรูปแบบผง จะนิยมใช้ในอาหารเสริมที่มีการกำหนดปริมาณรับประทานในหน่วยกรัม
ของเหลว : จากที่กล่าวไว้ข้างต้น ลูกค้าส่วนใหญ่จะเชื่อว่าอาหารเสริมแบบน้ำ จะมีการดูดซึมที่รวดเร็ว และน่าจะดีกว่าอาหารเสริมรูปแบบอื่นๆ แต่เมื่อกล่าวถึงสารอาหารบางประเภท การดูดซึมที่ช้าอาจทำให้สารออกฤทธิ์ได้ดีกว่า ในทางตรงกันข้าม อาหารเสริมรูปแบบของเหลวมีความยืดหยุ่นในการนำไปใช้ และง่ายต่อการรับประทาน มันจึงเหมาะสำหรับคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ
ซอฟต์เจล (Softgel) : เป็นแคปซูลเจลลาตินเนื้อเดียว ที่นิยมใช้กับสารอาหารประเภทน้ำมันและสารที่ละลายได้ในไขมัน มันมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานกว่า เมื่อเทียบกับแคปซูล,ของเหลวและผงเนื่องจากการออกแบบให้มีเนื้อเดียวปิดสนิท แม้ว่าการผลิตซอฟต์เจลจะมีราคาแพงกว่าแบบเม็ดหรือแคปซูล แต่ด้วยพื้นผิวและรูปทรงที่ราบเรียบ ทำให้มันง่ายต่อการกลืนโดยไม่ต้องคำนึงถึงขนาด ส่วนข้อดีอื่นๆ ของการเลือกใช้ซอฟต์เจลเป็นบรรจุภัณฑ์ของอาหารเสริมพวกมีดังนี้:
- ส่วนผสมที่มีความไวต่อสิ่งแวดล้อม จะถูกปกป้องไว้ภายในเนื้อเจลที่ห่อหุ้ม
- รายงานจากลูกค้ากล่าวว่า อาการระคายเคืองกระเพาะอาหารลดลงเมื่อรับประทานซอฟต์เจล
- สามารถเลือกใช้ซอฟต์เจลที่ทำจากคาราจีแนน สำหรับกลุ่มผู้รับประทานมังสวิรัติ
- สามารถออกแบบให้ถูกย่อยและสลายตัวในบิรเวณเฉพาะของระบบทางเดินอาหารได้
- ทนต่อความร้อนและอุณหภูมิที่ผันผวนทำให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายและจัดเก็บ
- ผู้บริโภคที่มีปัญหาเกี่ยวกับสารเคลือบบนอาหารเสริมแบบเม็ด จะไม่พบปัญหานี้เมื่อรับประทานซอฟต์เจล



