เมล็ดงาอาจเป็นหนึ่งในเมล็ดพืชที่ให้น้ำมันยุคแรก ๆ ที่มนุษย์รู้จัก ต้นงาเป็นไม้ดอกชนิดหนึ่งอยู่ในวงศ์งา (Pedaliaceae) เมล็ดงามีหลากหลายชนิดขึ้นกับพันธุ์ที่ปลูกเช่น งาขาว งาดำ และงาแดง เมล็ดเหล่านี้มีสรรพคุณในการบำรุงสุขภาพ ป้องกัน และรักษาโรค ซึ่งทำให้สามารถใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์แผนโบราณได้ น้ำมันงาอุดมไปด้วยแหล่งสารพฤกษเคมีหรือไฟโตนิวเทรียนท์ (phytonutrients) เช่นสารต้านอนุมูลอิสระฟลาโวนอยด์ฟีนอล วิตามิน และเส้นใยอาหาร เมล็ดงาเหล่านี้จึงให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายรวมถึงประโยชน์ดังต่อไปนี้:
คุณประโยชน์ต่อผิว
งาอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ และมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส และยังให้ประโยชน์อย่างมากมายกับผิวของคุณโดยผ่านทาง/การนำ/เลือดและสารอาหาร น้ำมันสกัดจากเมล็ดงาอุดมไปด้วยโอเมกา-6 แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และ วิตามิน B และ E ซึ่งถูกนำไปใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เรามาเรียนรู้กันว่าเมล็ดงามีประโยชน์ต่อผิวอย่างไร
1. สรรพคุณช่วยสมานแผล
น้ำมันงาเป็นสารธรรมชาติที่มีผลต้านการอักเสบ และมีสรรพคุณช่วยสมานแผลได้ดีเยี่ยม ด้วยสรรพคุณในการต้านเชื้อแบคทีเรียจึงช่วยกำจัดเชื้อโรคทางผิวหนัง อย่างเช่น เชื้อสแตฟิโลค็อกคัส และเชื้อสเตรปโทค็อกคัส รวมทั้งเชื้อราบนผิวหนังทั่วไป เช่น เชื้อราที่เท้าของนักกีฬา น้ำมันงาผสมน้ำอุ่นสามารถควบคุมการติดเชื้อยีสต์ในช่องคลอดได้
2. คืนสภาพผิวเสียจากแสงแดด
เมื่อใช้หลังจากการตากลมหรือแสงแดด น้ำมันงาสามารถคืนสภาพผิวดำเกรียมจากการตากแดดมากเกินไป และยังช่วยป้องกันอันตรายจากรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดที่อาจทำให้ผิวของคุณเสียหายได้ นอกจากนั้นยังสามารถป้องกันการเกิดรอยย่นและสีผิวคล้ำผิดปกติได้ การใช้น้ำมันนี้เป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนัง และป้องกันผิวจากผลกระทบของคลอรีนในน้ำของสระว่ายน้ำ
3. ขจัดพิษบนผิวหนัง
สารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในน้ำมันงาช่วยในการล้างพิษบนผิวหนังของคุณ เมื่อทาบนผิวโมเลกุลของน้ำมันนี้จะจับตัวกับพิษที่ละลายในน้ำมันได้แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นและสบู่ ผสมน้ำมันงาครึ่งถ้วยกับน้ำส้มสายชูที่ทำจากแอปเปิลและน้ำสะอาดหนึ่งส่วนสี่ถ้วย แล้วใช้ทาให้ทั่วใบหน้าทุกคืนหลังล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด คุณควรรวมเอาน้ำมันงาเข้าไว้ในระบบจัดการความงามของคุณด้วย
4. เหมาะกับทารก
ผิวของทารก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณที่ถูกปกคลุมด้วยผ้าอ้อม มักเกิดผื่นคันอันเกิดจากของเสียจากร่างกาย น้ำมันงาช่วยปกป้องผิวบอบบางของทารกต่อผื่นเหล่านี้ แต้มที่จมูกและใบหูให้การป้องกันเชื้อโรคทางผิวหนังทั่วไป และยังช่วยป้องกันผิวแห้งอีกด้วย
5. ผิวเปล่งปลั่ง
น้ำมันงาสามารถช่วยให้ผิวคุณเปล่งปลั่ง คงความยืดหยุ่นของผิวไว้โดยรักษาความละมุนละไมและนิ่มนวล และยังช่วยสมานรอยแผล รอยครูด รอยถลอกเล็กน้อยได้ ช่วยกระชับผิวหน้าโดยเฉพาะบริเวณรอบ ๆ จมูก และควบคุมการขยายตัวของรูขุมขน นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมการเกิดผื่นและทำให้สารพิษที่ก่อตัวขึ้นบนผิวหนังและในรูขุมขนให้เป็นกลาง คุณสามารถทดลองกับใบหน้าเพื่อผิวที่เปล่งปลั่งได้โดยนวดน้ำมันงาให้ทั่วผิวหน้า แล้วขัดด้วยข้าวหรือแป้งเบซัน (besan powder) ก่อนล้างออกด้วยน้ำอุ่นแล้ว หลังจากนั้นให้ล้างด้วยน้ำเย็นอีกครั้งเพื่อปิดรูขุมขน
6. รักษาส้นเท้าแตก
ถ้าคุณมีส้นเท้าแตกหรือเท้าที่รู้สึกเจ็บแสบ คุณสามารถใช้น้ำมันงาทาที่เท้าและสวมด้วยถุงเท้าที่ทำจากผ้าฝ้าย(หรือคอตตอน) ทุกคืนก่อนเข้านอน ภายในเวลาเพียงสองวันคุณจะเห็นว่าเท้าของคุณอ่อนนุ่มและยืดหยุ่นขึ้น
คุณประโยชน์ของเมล็ดงาต่อเส้นผม
เมล็ดงาอัดแน่นไปด้วยวิตามิน สารอาหาร และแร่ธาตุ ที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาสุขภาพของหนังศีรษะและเส้นผม น้ำมันงาให้คุณประโยชน์ต่อหนังศีรษะของคุณเช่นเดียวกับผิวหนัง ซึ่งทำให้สามารถต่อสู้กับปัญหาที่เกิดกับหนังศีรษะได้หลากหลาย คุณประโยชน์ของงาที่มีต่อหนังศีรษะ มีดังนี้
7. กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมเมล็ดงาประกอบไปด้วยกรดไขมันที่สำคัญ เช่น โอเมกา-3 โอเมกา-6 และโอเมกา-9 ซึ่งช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม น้ำมันงาช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมโดยการหล่อเลี้ยง ปรับสภาพ และเสริมสุขภาพของหนังศีรษะ การนวดเป็นประจำด้วยน้ำมันงาอุ่น ๆ ให้แทรกซึมเข้าไปในหนังศีรษะ ช่วยทำให้การหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่งเทียบได้กับการให้วิตามินที่หล่อเลี้ยงรากและเส้นผมของคุณ
8. ป้องกันปัญหาหนังศีรษะ
เมล็ดงาอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหาร ที่เติมเต็มสิ่งที่จำเป็นสำหรับสุขภาพหนังศีรษะ การนวดน้ำมันงาที่หนังศีรษะจะช่วยต่อสู้กับความแห้งกร้าน หลุดลอก และการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการผมร่วงและผมบาง นอกจากนี้ คุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อรา แบคทีเรีย และป้องกันการอักเสบ ยังช่วยรักษาอาการติดเชื้อและรังแค และยังช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองหนังศีรษะได้อีกด้วย
9. ครีมกันแดดธรรมชาติ
น้ำมันงาสามารถทำหน้าที่เป็นครีมกันแดดธรรมชาติสำหรับเส้นผมของคุณ โดยช่วยปกป้องเส้นผมของคุณจากความเสียหายซึ่งเป็นผลกระทบจากรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดด และมลภาวะ
10. ปรับสภาพลึก (Deep Conditioning)
น้ำมันงาทำหน้าที่เป็นครีมบำรุงปรับสภาพผมแบบแทรกซึมลึก สำหรับผมแห้ง ผมเสีย ผมแตกปลาย หรือผมที่ได้รับสารเคมีจากการดูแลผม จะช่วยคืนสภาพความชุ่มชื้นและความแข็งแรงของเส้นผมที่สูญเสียไป นำความเงางาม มีสปริง ยืดหยุ่น และอ่อนนุ่ม ให้กับเส้นผมที่แข็งกระด้างและเปราะบางขาดง่าย
11. คุณลักษณะทำให้ผมดกดำ
น้ำมันงา เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีคุณลักษณะในการทำให้ผมดกดำที่ส่งผลดีต่อผู้ที่ต้องทุกข์ทรมานใจกับการที่มีผมหงอกก่อนวัยอันควร สามารถใช้ร่วมกับน้ำมันตัวพา(น้ำมันที่ทำให้การดูดซึมดีขึ้น) เช่น น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันอัลมอนด์ เพื่อให้ได้คุณประโยชน์สูงสุด
12. เสริมสุขภาพการย่อยอาหาร
เมล็ดงาสามารถช่วยในการรักษาอาการท้องผูก เนื่องจากมีเส้นใยอาหารสูง และมีกรดไขมันไม่อิ่มตัว น้ำมันที่พบในเมล็ดงาสามารถหล่อลื่นลำไส้ ในขณะที่เส้นใยช่วยในเคลื่อนตัวภายในลำไส้ให้เป็นไปอย่างราบรื่น และยังช่วยขับพยาธิในลำไส้และทำให้กระบวนการย่อยอาหารดีขึ้น ถ้าบดหรือแช่เมล็ดไว้ทั้งคืนสามารถช่วยในการย่อยเมล็ดได้ดีขึ้น
13. เสริมสุขภาพของกระดูก
โรคกระดูกพรุนเป็นสาเหตุของกระดูกเปราะที่ทำให้มีความเสี่ยงสูงขึ้นต่อการแตกหัก ความหนาแน่นของมวลกระดูกมีแนวโน้มลดลงหลังอายุ 35 ปี และการสูญเสียมวลกระดูกจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในสตรีหลังวัยหมดประจำเดือน เมล็ดงามีแร่สังกะสีที่จะช่วยเสริมสร้างความหนาแน่นของมวลกระดูกและสุขภาพของกระดูก อีกทั้งยังเป็นแหล่งแคลเซียมที่ดีเยี่ยม ที่เป็นส่วนสำคัญต่อสุขภาพของกระดูกอีกด้วย



