โรคผมร่วงเป็นหย่อม (alopecia areata) คืออะไร?

โรคผมร่วงเป็นหย่อมเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง (autoimmune disorder) ที่พบได้บ่อยและทำให้เกิดผมร่วงแบบทันทีทันใด ในประเทศสหรัฐอเมริกามีคนเป็นโรคนี้อยู่ราว ๆ 6.8 ล้านคน ส่วนใหญ่แล้วอาการของโรคนี้จะทำให้ผมร่วงเป็นหย่อมเล็ก ๆ ขนาดประมาณเหรียญบาท ซึ่งคนส่วนมากจะมีผมร่วงเพียงไม่กี่หย่อมเท่านั้น แต่บางรายอาจมีผมร่วงมากกว่านั้น บางครั้งอาจทำให้ผมร่วงหมดทั้งศีรษะ (alopecia totalis) หรือบางรายที่เป็นมากอาจทำให้ผมที่ศีรษะและขนทั่วร่างกายร่วงทั้งหมด

(alopecia universalis) โรคนี้อาจเกิดได้กับทุกคนในทุกช่วงวัยและทุกเพศ แต่มักพบในผู้ที่มีอายุไม่ถึง 30 ปี ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าสาเหตุและอาการ รวมถึงการวินิจฉัยและแนวทางในการดูแลโรคผมร่วงเป็นหย่อมมีอะไรบ้าง

สาระน่ารู้ของโรคผมร่วงเป็นหย่อม

ในส่วนนี้จะพูดถึงประเด็นสำคัญบางส่วนของโรคผมร่วงเป็นหย่อม ซึ่งคุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความนี้ หนึ่งในห้าของผู้ที่เป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อมมีคนในครอบครัวที่เป็นโรคนี้ด้วยเช่นกัน โรคผมร่วงเป็นหย่อมมักเกิดขึ้นแบบกะทันหันซึ่งอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์แค่ไม่กี่ชิ้นเท่านั้นที่พบว่าโรคผมร่วงเป็นหย่อมมีสาเหตุมาจากความเครียดคนที่เป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อมและเป็นเพียงไม่กี่หย่อมมักมีอาการที่เกิดขึ้นทันทีทันใด และผมขึ้นมาได้เองโดยไม่ต้องรักษา โรคผมร่วงเป็นหย่อมไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

การดูแลรักษา

 

โรคผมร่วงเป็นหย่อมเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง (autoimmune disorder) ที่พบได้บ่อยและทำให้เกิดผมร่วงแบบกะทันหัน

ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อมให้หายขาด แต่แพทย์ก็มีแนวทางการดูแลรักษาที่จะทำให้ผมของคุณขึ้นใหม่ได้เร็วขึ้น

วิธีการดูแลรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อมที่ใช้กันมากที่สุดคือการใช้ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ (corticosteroids) ซึ่งเป็นยาต้านการอักเสบที่มีประสิทธิภาพและช่วยกดภูมิคุ้มกัน มักใช้เป็นยาฉีดเฉพาะที่, ยาทาภายนอก, หรือรับประทาน

ยาตัวอื่น ๆ ที่ช่วยให้ผมขึ้นเร็วหรือส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันคือยาไมน็อกซิดิล (Minoxidil), แอนทราลิน (Anthralin), SADB, และ DPCP แม้ว่ายาบางตัวจะช่วยให้ผมขึ้นใหม่ได้ แต่ก็ไม่สามารถป้องกันการเกิดผมร่วงหย่อมใหม่ ๆ ได้

งานวิจัยบางชิ้นแนะนำให้ใช้การรักษาด้วยการใช้เคมีบำบัดร่วมแสง (Photochemotherapy) เป็นการรักษาทางเลือกสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถหรือไม่ต้องการใช้วิธีการรักษาที่มีผลทั่วทั้งร่างกาย (Systemic) หรือการรักษาแบบสอดใส่วัตถุเข้าไปในร่างกาย (Invasive)

นอกจากเหตุผลเรื่องความสวยงามแล้ว เส้นผมและขนยังทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันสิ่งอื่น ๆ อีกด้วย ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อมควรปฏิบัติดังนี้:

  • ทากันแดดเมื่อต้องโดนแสงแดด
  • สวมแว่นกันแดดเพื่อป้องกันดวงตาจากแสงแดดและสิ่งสกปรก ซึ่งเดิมเป็นหน้าที่ของคิ้วและขนตา
  • สวมเครื่องแต่งกายคลุมศีรษะ เช่น หมวก, วิกผม, และผ้าพันคอเพื่อป้องกันไม่ให้ศีรษะสัมผัสกับแสงแดด หรือทำให้ศีรษะอุ่นอยู่เสมอ
  • ใช้ครีมป้ายจมูกทาภายในจมูกเพื่อช่วยให้เนื้อเยื่อชุ่มชื่นและเพื่อกันสิ่งสกปรก ซึ่งเดิมเป็นหน้าที่ของขนจมูก

โรคผมร่วงเป็นหย่อมไม่ได้ทำให้คุณมีอาการป่วยโดยตรง อีกทั้งไม่ได้เป็นโรคติดต่อ แต่กลับมีผลทางด้านจิตใจ ผู้ที่เป็นโรคนี้หลายคนมีภาวะป่วยทางจิตใจซึ่งต้องได้รับการรักษา และต้องรักษาควบคู่ไปกับภาวะผมร่วงด้วยเช่นกัน

การเข้ากลุ่มบำบัดหรือการเข้ารับคำปรึกษาจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถแชร์ประสบการณ์และความรู้สึกของตนเองให้ผู้อื่นได้รับฟัง และยังได้พูดคุยถึงปัญหาด้านจิตใจที่มีต่อภาวะผมร่วง

โรคภาวะผมร่วงเป็นหย่อมถูกนำมาเปรียบเทียบกับโรคด่างขาว (vitiligo) ซึ่งเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองทางผิวหนัง เกิดจากการที่ร่างกายโจมตีเซลล์ที่ผลิตเมลานิน ทำให้เป็นปื้นสีขาวบริเวณผิวหนัง นักวิจัยระบุว่าทั้งสองโรคนี้อาจมีพยาธิกำเนิดที่คล้ายคลึงกัน เพราะเป็นโรคที่เกิดจากเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันและไซโตไคน์ที่มีลักษณะคล้ายกัน อีกทั้งยังเกิดจากปัจจัยเสี่ยงทางกรรมพันธุ์เช่นเดียวกัน

ดังนั้นแนวทางในการรักษาหรือป้องกันโรคใดโรคหนึ่ง อาจส่งผลต่ออีกโรคได้

มีการบันทึกไว้ว่าการรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อมโดยใช้ยาไดเฟนซิโพรน (DCP) ทำให้เกิดอาการแพ้จากการสัมผัส (contact sensitizer) และอาจทำให้เกิดโรคด่างขาวได้

จากการวิจัยเบื้องต้นพบว่าสารเควอซิติน (quercetin) ซึ่งเป็นสารไบโอฟลาโวนอยด์ที่พบในผักและผลไม้ สามารถยับยั้งการเกิดโรคผมร่วงเป็นหย่อมและสามารถรักษาอาการผมร่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างไรก็ตามต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม รวมถึงการทดลองในมนุษย์ก่อนนำสารเควอซิตินมาใช้ในการรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อม

สาเหตุ

โรคนี้มีสาเหตุจากการที่เซลล์เม็ดเลือดขาวทำลายเซลล์ที่อยู่ในเซลล์รากผม ทำให้เซลล์เกิดการหดตัวและชะลอการเจริญเติบโตของเส้นผม แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเหตุใดระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจึงทำลายเซลล์รากผมเช่นนี้

แม้นักวิทยาศาสตร์จะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ปัจจัยที่มีส่วนเกี่ยวเนื่องกับโรคนี้คือพันธุกรรม โดยมักเกิดกับผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัวที่ใกล้ชิดกันและเป็นโรคนี้ จากสถิติพบว่าหนึ่งในห้าของผู้เป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อมมีคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

งานวิจัยอื่น ๆ พบว่าคนที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อม ตนเองและคนในครอบครัวมักมีประวัติเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองโรคอื่น ๆ ด้วย เช่น โรคภูมิแพ้ทางกรรมพันธุ์ (Atopy) ซึ่งทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายอย่างโรค ต่อมไทรอยด์อักเสบ (thyroiditis) และโรคด่างขาว

แม้ว่าคนจำนวนมากจะคิดว่าความเครียดเป็นส่วนหนึ่งของโรคผมร่วงเป็นหย่อม ทว่ามีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์น้อยมากที่พบว่าความเครียดเป็นสาเหตุของโรคนี้ แม้ว่าผู้ที่มีความเครียดมากอาจกระตุ้นในเกิดภาวะนี้ได้ แต่งานวิจัยส่วนใหญ่พบว่าโรคนี้มีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์

การรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ

แม้ว่าแนวทางการรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อมด้วยแพทย์แผนปัจจุบันจะมีน้อยมาก แต่งานวิจัยเรื่องแนวทางการรักษาโรคนี้ด้วยวิธีธรรมชาติกลับมีน้อยยิ่งกว่าบางคนอาจแนะนำให้ถูหัวหอมหรือน้ำกระเทียม, ชาเขียวเย็น, น้ำมันอัลมอนด์, น้ำมันโรสแมรี, น้ำผึ้ง, หรือน้ำกะทิลงบนหนังศีรษะ แม้ว่าวิธีเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เกิดอันตราย แต่ก็ไม่งานวิจัยรองรับว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคบางคนอาจเลือกรักษาด้วยแพทย์ทางเลือกเช่นการฝังเข็มและสุคนธบำบัด (aromatherapy) แม้ว่าจะมีงานวิจัยเพียงเล็กน้อยที่สนับสนุนการรักษาด้วยยวิธีเหล่านี้ก็ตาม Top of Form Bottom of Form

อาการ

อาการเด่นที่พบได้บ่อยที่สุดของโรคผมร่วงเป็นหย่อมคือการพบผมหรือขนร่วงเป็นหย่อม ๆ มักเกิดบริเวณหนังศีรษะ โดยมีขนาดประมาณเหรียญบาท อาจเกิดได้กับขนบริเวณอื่น ๆ เช่น เคราและขนตา มักเป็นอาการที่เกิดขึ้นทันทีทันใด อาจใช้เวลาเพียงไม่กี่วันหรือเป็นอาทิตย์ อาจมีอาการคันหรือแสบร้อนบริเวณที่เป็นก่อนผมหรือขนร่วง เซลล์รากผมไม่ได้ถูกทำลายไปด้วย ดังนั้นผมจึงงอกขึ้นใหม่ได้เมื่อการอักเสบของเซลล์ลดลง ผู้ที่มีผมร่วงเพียงไม่กี่หย่อมมักจะมีอาการแบบทันทีทันใด และผมสามารถขึ้นใหม่ได้หมดโดยไม่ต้องได้รับการรักษา

ผู้ป่วยราว 30 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อมจะมีอาการรุนแรงขึ้นหรือมีผมร่วงและผมขึ้นใหม่เป็นวงจรแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ผู้ป่วยราวครึ่งหนึ่งจะหายจากโรคผมร่วงเป็นหย่อมภายใน 1 ปี แต่หลาย ๆ คนมักกลับมาเป็นซ้ำ และ 1 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยจะพัฒนาไปเป็นโรคผมร่วงหมดทั้งศีรษะหรือผมที่ศีรษะและขนทั่วร่างกายร่วงทั้งหมด โรคผมร่วงเป็นหย่อมสามารถส่งผลต่อเล็บมือและเล็บเท้าได้ ซึ่งบางครั้งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็เป็นสัญญาณแรก ๆ ของการเกิดโรคนี้ โดยเล็บอาจมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้:

โรคผมร่วงเป็นหย่อมเกิดขึ้นได้ทั้งในเพศชายและหญิงเท่า ๆ กัน

  • มีรอยบุ๋ม
  • มีจุดขาวหรือเส้นสีขาว
  • เล็บหยาบขึ้น
  • เล็บขาดความเงางาม
  • เล็บบางและเปราะ

อาการแสดงเพิ่มเติม:

  • เส้นผมคล้ายเครื่องหมายอัศเจรีย์ (Exclamation mark hairs): เป็นลักษะของเส้นผมที่มีลักษณะเป็นเส้นสั้น ๆ โดยโคนเส้นผมมีลักษณะบาง พบบริเวณรอบ ๆ หรือตรงกลางบริเวณที่ศีรษะล้าน
  • Cadaver hairs: เป็นลักษณะของผมที่ขาดก่อนงอกออกมาถึงชั้นผิวหนัง
  • ผมขาว:  อาจพบผมขาวในบริเวณที่มีผมร่วง

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยโรคผมร่วงเป็นหย่อมจากการตรวจร่างกาย  อาจดูจากความรุนแรงของภาวะผมร่วงและนำเส้นผมไปตรวจกับกล้องจุลทรรศน์ หากแพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยได้จากการตรวจร่างกาย อาจตัดชิ้นเนื้อจากผิวหนังไปตรวจ (Skin biopsy) และอาจตรวจเลือดเพิ่มเติมเพื่อแยกออกจากโรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเองโรคอื่น ๆ โรคผมร่วงเป็นย่อมเป็นโรคที่มีอาการแสดงชัดเจน ดังนั้นจึงสามารถวินิจฉัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

แผ่นรองเท้า เท้าแบน ที่ปรึกษาปัญหาอาการปวด ตามจุดต่างๆ ของร่างกาย รักษาอาการปวดเท้า ปวดหลัง อาการออฟฟิศซินโดรม ออฟฟิศซินโดรม รักษาโรครองช้ำ โรคเท้าแบน โดยใช้แผ่นรองเท้า ซึ่งเป็นนวัตกรรมและเครื่องมือนำเข้ามารักษาอาการปวดของคุณ เป็นแผ่นรองเท้า พื้นรองเท้าสุขภาพ ให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญฟรี
microneedling The Skin Group Medical Clinic is a group of 7 clinics specializing in dermatology, anti-aging and aesthetic in Bangkok and suburbs with close to 10 years of experience
microneedling The Skin Group Medical Clinic is a group of 7 clinics specializing in dermatology, anti-aging and aesthetic in Bangkok and suburbs with close to 10 years of experience
microneedling The Skin Group Medical Clinic is a group of 7 clinics specializing in dermatology, anti-aging and aesthetic in Bangkok and suburbs with close to 10 years of experience
Gender reassignment surgery Estetica Thailandia offers free medical concierge service EXCLUSIVELY FOR TRANSGENDERS wanting gender change surgery. We are a liaison between patient and surgeon to facilitate the sex change trip prior to patient’s arrival until patient’s departure. We offer advice, support, document liaison and travel arrangement fre
คลินิกจัดฟัน เชียงใหม่ คลินิกทันตกรรมเฉพาะทาง – เดนทัลเวิลด์ เชียงใหม่ | เป็นคลินิกทำฟัน รักษารากฟัน จัดฟันแบบใส จัดฟันแบบ invisalign เชียงใหม่ สำหรับทุกคนในครอบครัว มาตรฐานการรักษาทางทันตกรรมที่ดีเยี่ยม ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ให้คุณยิ้มสวยอย่างมั่นใจและมีสุขภาพฟันที่ดี